Lubitel Exhibition : Asian Lomography Faces‏




ขอเชิญมาร่วมงานแสดงภาพถ่ายจากกล้อง Lomo Lubitel 166+ ครั้งแรกในประเทศไทย
ที่คัดเลือกจาก Lomographer ทั่วเอเชีย มาจัดแสดงที่สถานฑูตโลโม่

กำหนดแสดง 18 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2552
เปิดงานวันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2009 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป
สถานที่ - Lomography Embassy Shop Bangkok สุขุมวิท 39

ใครอยากมาลองเล่นลองจับ Lubitel166+ ก็มาได้ที่งานนี้เลย...



120 Workshop : Get to know more about 120!
- พบกับทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับกล้องและฟิล์มขนาด 120
- สอนการใช้งาน Lubitel166+ และ Diana F+ อย่างละเอียด

วันที่ 18 เมษายน 2552 เวลา 14.00 น.
สถานที่ - Lomography Embassy Shop Bangkok สุขุมวิท 39

first time of LoMography

วันนี้เอารูปที่ถ่ายครั้งแรกโดยใช้กล้องโดฟกลับฟิล์มสไลด์ Kodak silde 100
ล้างและสแกนที่สยามดิจิ มาให้ดูกันค่ะ ขอคำแนะนำติดชมกันด้วยเน้อ
เพื่อเป็นกำลังใจต่อไป สำหรับ Lomogirl ^^





(ขอบ่นหน่อย)วันที่เอาไปล้างที่สยามดิจิ ไม่ค่อยประทับใจเลย คิดดูว่าเอาฟิล์มไปทิ้งที่ร้านสามม้วน
ฟิล์มเนก 2 ฟิล์มสไลด์ 1 กว่าจะมีเวลาว่างไปเอาก็อีกสองสามวัน พอตอนไปเอาประมาณหกโมงกว่าแล้ว
พอไปเอา มันดันยังไม่ตัดฟิล์มเนกใส่ในซองใส่ฟิล์ม มันบอกให้เราไปตัดเอง แถวค่าล้างแสกน
ยังกว่าฟิล์มสไลด์อีก หึหึ ขอบอกตรงนี้เลย ว่าไปครั้งเดียวแล้วจะไม่ไปร้านนี้อีก ถ้าไม่จำเป็น
จะหาร้านอื่นล้างแทน เสียเงินให้มันแล้วยังต้องมานั่งตัดฟิล์มและใส่ฟิล์มเองอีก ไช่อะไรหรอก
ทำเองน่ะทำได้อยู่แล้วไม่ได้ลำบากไรมากมาย แต่กูจ่ายตังให้มึงแล้วเนี่ยน่ะ ยังบริการดีขนาดนี้อีก
ขอบคุณ !!!

กฎของโลโม่

วันนี้ลองเอากฎของการถ่ายภาพโลโม่มาฝากทุกๆคนค่ะ ลองอ่านกันดูนะ

กฎของโลโม่ Golden Rules of Lomography
1. Take your Lomo everywhere you go.
2. Use it at any time - day & night.
3. Lomography is not an interference in your life, but a part of it.
4. Approach the objects of your lomographic desire as close as possible.
5. Don't think.
6. Be fast!
7. You don't have to know beforehand what is captured on your film...
8. ...you don't have to know it afterwards either.
9. Shoot from the hip.
10. Don't care about rules.


มีกล้องแล้วจะใช้ฟิล์มอะไรดีหนอ?

หลังจากที่ได้กล้องสำหรับถ่ายภาพโลโม่มาเรียบร้อย...ก็เกิดคำถามขึ้นว่า เอ๊ะ!! ชั้นจะซื้อฟิล์มอะไรมาใช้กับเจ้ากล้องตัวนี้ดีเนี่ย !!! ไม่ยากเลยแค่ซื้อฟิล์มขนาดที่ใส่กับกล้องเราได้เท่านั้น ก็ใช้ได้แล้ว แต่เรื่องของสีสันและความแตกต่างของภาพที่ได้จะมาพูดให้ฟัง

ฟิล์มสำหรับถ่ายภาพโลโม่นั้นมีหลายประเภทมากมาย โดยขอเรียงลำดับดังนี้
1.แบ่งตามประเภทการใช้งาน
- ฟิล์มเนกกาทีฟ --->>หรือที่เรียกว่าฟิล์มเนก ฟิล์มสี เอาให้ง่ายๆเลยคือ ฟิล์มที่ใช้ถ่ายภาพกันทั่วๆไป เช่น kodak , Fuji, Konica พวกนี้ที่หาซื้อได้ตาม 7-11 ทั่วไป แต่เมื่อเอาไปล้างครอสแล้ว สีออกมาจะตุ่นๆ หรือบางทีก้มองไม่เห็นอะไรเลย
- ฟิล์มสไลด์ ----->> ฟิล์มสไลด์เป็นฟิล์มที่นิยมใช้สำหรับถ่ายภาพโลโม่มากที่สุด เพราะเมื่อเอาไปล้างครอสเรียบร้อยแล้ว ภาพที่ถ่ายออกมาจะสีสันจัดจ้าน สวยงาม ถูกใจชาวโลโม่ ซึ่งที่นี่ยมใช้และเห้นตามร้านขายฟิล์มบ่อยๆก็จะเป็นของ kodak slide 100

2.แบ่งตามขนาดของฟิล์ม
- ขนาด 35mm หรือ135 --->> เป็นฟิล์มขนาดทั่วไปปกติ หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป
- ขนาด 120 --->> เป็นฟิล์มที่ใช้กับกล้อง โฮลก้า ไดอาน่า พวกนี้

**เดี๊ยวนี้มีบางคนใช้ฟิล์มบูดหรือฟิล์มที่หมดอายุไปแล้วมาใช้ในการถ่ายโลโม่ แต่สีที่ได้ไม่แน่นอน จืดกว่า

กล้องโลโมคืออะไร (ทอย LC-A Holga....brabra)

พอเห็นรูปแล้วบางคนก็อยากจะถ่ายกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ เลยเกิดคำถามว่าจะใช้กล้องอะไรดี ใช้ฟิล์มอะไร ถ่ายยังไง
ก็เลยจะมาอธิบายให้ฟังว่ากล้องที่นิยมใช้กันนั้นมีอะไรบ้าง จะได้ไปหามาถ่ายเล่นกันว่าเราก็โม่เป็นนะจร้า

สำหรับกล้องที่ชาวโลโมใช้ในการถ่ยรูปงามๆออกมานี้มีมากมายหลายหลายค่ะ
สำหรับตัวเองแล้ว ยังคงใช้กล้อง dove อยู่เพราะยังไม่มีงบค่ะ และเพิ่งหัดเล่นไม่นานจะลองกับเจ้า dove ให้สุดๆไปก่อน
แล้วจะถอยกล้องใหม่มาซักตัว อิอิ

สำหรับกล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพโลโม่มีดังนี้ค่ะ
1. กล้องทอย อย่าเช่นกล้องโดฟ กล้องวาสลีน กล้องโค้ก พวกนี้
2. กล้องมียี่ห้อ เช่น LOMO LC-A, Holga, fisheye, Smena, color splash, frogeye...etc.

สรุปแล้วกล้องที่ใช้ถ่ายรูปโลโมนั้นมีหลากหลายมากคะ ก็เลือกเอาตามกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านแล้วกันนะคะว่าจะเป้นเจ้าของตัวไหนคะ
ปิดท้ายด้วยรูปของกล้องโลโมที่เอามาฝากกันพอประมาณคะ



เครดิตภาพจาก : lomothai

คราวหน้าจะมาว่าด้วยเรื่องของฟิล์มที่ใช้กับกล้องโลโมค่ะ

กำเนิดLOMO


สำหรับจุดกำเนิดของ LOMO เกิดและเริ่มต้นที่ประเทศรัสเซียคะ ความน่าสนใจของมันอยู่ที่อารมณ์ของภาพและสีที่ได้จากการล้าง cross จึงบังเกิดภาพงามๆที่เรารู้สึกหลงไหลในความมีเสน่ห์ของเจ้าโลโม่มาจนถึงวันนี้ ด้วยเหตุนี้จึงขอนำบทความเกี่ยวประวัติการกำเนิดโลโม่ มาเผยแพร่ ณ ที่นี้เริ่มกันเลย.....


ประวัติโลโมกราฟี


โลโมกราฟี (Lomography) เป็นเครื่องหมายการค้าของ Lomographische AG ประเทศออสเตรีย สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับการถ่ายภาพ. โดยได้ซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อมาจากโลโม (LOMO PLC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเลนส์ของรัสเซีย. กล้อง 35 มม. LOMO LC-A ถูกโปรโมตโดยผู้ที่ชื่นชอบในงานแสดงภาพต่าง ๆ ทั่วโลก



ประวัติ


เดิมทีกล้องโลโม่ออกแบบมาเพื่อใช้ในหน่วยงานสายลับของกองทัพรัสเซีย โดย LOMO ย่อมาจาก Leningrad Optical Machinery Organization ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของกิจการกองทัพและผลิตเลนส์ที่ใช้ในกล้องโทรทัศน์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น มีคำสั่งให้หน่วยงาน LOMO ผลิตกล้องเลียนแบบกล้องคอมแพคท์ของญี่ปุ่นขึ้นมาให้เร็วที่สุด ถูกที่สุดและมากที่สุด เพื่อแจกจ่ายให้พลเมืองรัสเซียทุกคนได้รู้จักการถ่ายรูป โดยมีคำขวัญว่า "คอมมิวนิสต์อันทรงเกียรติทุกคนควรมีกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A เป็นของตัวเอง" โดยผู้ผลิตกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A คือ Michail Aronowitsch Radionov อดีตสายลับ KGB


ต่อมาเมื่อในปี พ.ศ. 2534 Matthias Fiegl และ Wolfgang Stranzinger หนึ่งในผู้บริหารบริษัท Lomographische AG เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่ลืมนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย จึงไปซื้อและได้รู้จักกับกล้อง Lomo Kompakt Automat โดยบังเอิญ และหลังจากได้ถ่ายและล้างรูปจากร้านล้างรูปธรรมดาในซุเปอร์มาร์เก็ตผลออกมา พบว่าภาพถ่ายมีสีสันจัดจ้านดูผิดเพี้ยน แต่มีความสวยงามจนทำให้พวกเขาได้หลงใหลกับภาพที่ปรากฏขึ้น และในปี 2535 Fiegl และเพื่อนได้จัดตั้งบริษัท Lomographische AG ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากนั้นไม่นานกระแสความนิยมในโลโม่กระจายไปทั่วโลก ภายใต้แนวความคิดว่า "Lomography is an analog lifestyle product"